Pod มีจุดเริ่มต้นมาจากไหน แล้วมีทั้งหมดกี่รูปแบบ

พอต บุหรี่ไฟฟ้า หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Pod  เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ให้กับ สายอมควันทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย พกพาได้สะดวก มีวิธีการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน มีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นและรสชาติที่หอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของน้ำยา ซี่งแต่ละ Brand ก็จะผลิต คิดค้น รสชาติที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งช่วยเพิ่มความตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้สูบ เพราะนอกจากจะได้กลิ่นและรสชาติแบบเต็มๆ ยังมีเรื่องของฟิวสัมผัสในการสูบที่ต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้นักสูบทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ต่างพร้อมใจกันหันมาสูบ พอตไฟฟ้า กันอย่างแพร่หลาย โดยบุหรี่ไฟฟ้าที่เราพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการทำงานของระบบได้ 2 แบบ คือ 1.แบบเติมน้ำยา (Open System) 2.แบบใช้แล้วทิ้ง (Close System)

แล้วคุณรู้หรือไม่? ว่า Pod System ทั้ง 2 แบบ มีลักษณะการทำงานเป็นอย่างไร แล้วมีวิธีการใช้งานแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของบุหรี่ไฟฟ้ากันก่อนดีกว่า ว่าจุดกำเนิดมาจากไหน แล้วมีบุหรี่ไฟฟ้ามีพัฒนาการอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีการเลือก พอตไฟฟ้าแบบไหนเหมาะกับมือใหม่มากที่สุด อยากรู้ตามมาดูกันเลย

 

Pod คืออะไร มีจุดเริ่มต้นมาจากไหน

Pod System หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ที่เรารู้จักกันดีนั้น ถูกผลิตขึ้นมาครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยนักศึกษาจบใหม่ชาวอเมริกัน ในปี 2006 เขาคิดค้นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบ Nicotine Free มาเป็นรายแรกของโลก เพื่อสร้างบุหรี่ทดแทนแบบใหม่ที่มีสารพิษน้อยกว่า และสะอาดกว่า จนได้ “cigalike” ต้นแบบของบุหรี่ไฟฟ้า Gen 1 ด้วยแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก และถูกนำมาพัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความสุนทรีย์ในการพักผ่อนสำหรับสายอมควัน จึงทำให้ บุหรี่ไฟฟ้า ค่อยๆเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถครองใจนักสูบได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ก่อนจะมาเป็น Pod System ในแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ (Gen 4)  มันมีพัฒนาการเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลย  

pod

 

Generation 1

บุหรี่ไฟฟ้ายุคแรกของโลก คือ E-Cigarette หรือที่รู้จักกันในชื่อ “cigalike” และเป็นต้นแบบของบุหรี่ไฟฟ้าโลกในปัจจุบัน เพราะนอกจากลักษณะ รูปร่างหน้าตา ล้วนแล้วแต่ทำมาให้มีความคล้ายกับบุหรี่มวนเป็นอย่างมาก ซึ่งในรุ่นแรกของบุหรี่ไฟฟ้า มีกลไกการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง แต่สาเหตุที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากน้ำยา E-Cigarette ใน Gen ที่ 1 ยังไม่ได้มีการนำเอา Nicotine มาเป็นส่วนประกอบหลักทำให้ ผู้สูบยังคงติดสาร Nicotine ที่มีอยู่ในบุหรี่มวนมากกว่า

 

Generation 2 

มีลักษณะเป็นแท่งสูบและรูปร่างหน้าตาคล้าย “cigalike” แต่เพิ่มในส่วนของแบตเตอรี่ที่สามารถชาจได้เข้ามาใส่ในตัวเครื่อง ซึ่งใน Gen 2 นี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในแบบปัจจุบัน ที่มีการนำเอากลิ่นและรสชาติต่างๆมาผสมกับสาร Nicotine เพื่อให้ถูกใจผู้สูบมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยขอจำกัดในด้านของเทคโนโลยีแบตเตอรี่สมัยนั้นยังไม่มีความทนทานมากนัก จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้าใน Gen 2 นี้ ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก

 

Genaration 3 (Mod System)

ยุคทอง  เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของวงการบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เพราะนอกจากกระแสตอบรับที่มาแรงและได้ความนิยมเป็นอย่างมาก บุหรี่ไฟฟ้า ใน Gen 3 นี้ มีชื่อเรียกในวงการว่า Mod System เป็นการนำเอารูปแบบการยิงสดเข้ามาใช้ (จ่ายไฟฟ้ากระแสตรง) จึงทำให้ Mod System เป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่กลไกการทำงานที่ซับซ้อนมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันคุณก็สามารถปรับแต่งบุหรี่ไฟฟ้าของคุณได้ทุกรูปแบบที่คุณต้องการ อีกทั้งยังมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่สนุกและเฟื่องฟูที่สุดของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย

 

Genaration 4 (Pod System)

เป็นรูปแบบล่าสุดที่มีรูปแบบการทำงานแบบยิงสด คล้ายกับ Mod System แต่ตัวของระบบ Device มีความเสถียรในเรื่องของการจ่ายไฟมากกว่า ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัยได้มากกว่าแบบ Mod System ที่ตัวของผู้ใช้เองอาจจะต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาหลักใน Gen 3 ก็ถูกแก้ไข โดยบุหรี่ไฟฟ้าใน Gen ล่าสุดนี้ ก็มีรูปแบบการทำงานแบบ 2 ระบบ คือ พอตไฟฟ้า แบบเปลี่ยนหัว (Open System) กับ พอต ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง (Close System) ซึ่งระบบทั้ง 2 รูปแบบนี้มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องวิธีการใช้งาน และมีผลต่อฟิลลิ่งการสูบ เราจึงควรทำความเข้าใจ ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ พอตไฟฟ้า ไว้ใช้งาน 

pod 2

 

แบบเติมน้ำยา (Open System)

หลักการทำงาน ถูกประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1.หัวสูบ 2.คอยล์ 3.ตัวเครื่อง พร้อมแบตเตอรี่ อาจจะมีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่าแบบ Close System เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใช้งานยากจนเกินไป เพียงแค่คุณประกอบส่วนหัวสูบที่บรรจุน้ำยาและคอยล์ไว้ภายใน เข้ากับตัวเครื่องพอตไฟฟ้า แล้วตรวจเช็กสถานะแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นและรสชาติต่างๆได้ทันที

แบบใช้แล้วทิ้ง (Close System)

หลักการทำงานเบื้องต้นของ พอตไฟฟ้าแบบ Close System จะมีลักษณะภายนอก ดูคล้ายกับ พอต Open System เกือบทุกอย่าง เว้นแต่เพียงวิธีการใช้งาน ที่แตกต่างกัน คือ บริเวณส่วนของหัวสูบ (Cartridges) จะไม่สามารถเติมน้ำยา และปรับแต่งคอยล์ ตามความต้องการของเราได้ เนื่องจาก ระบบ Close System จะมีหัวสูบเฉพาะตัว สามารถใช้แล้วทิ้งได้ทันที เมื่อน้ำยาหมดก็เพียงแค่หาหัวสูบรุ่นเดิม มาเปลี่ยนแทนอันเก่าได้เลย

 

มือใหม่ควรเลือก พอตไฟฟ้า แบบไหนดี

dotpod

สำหรับใครที่กำลังมองหา บุหรี่ไฟฟ้าไว้ทดลองสูบ เน้นพกพาสะดวก ใช้งานง่าย โดยไม่อยากต้องมานั่งคอยดูแลรักษา หรือทำความเข้าใจระบบการทำงาน Beyourpod ก็ขอแนะนำ Ks quik บุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง  ที่เพียงแค่คุณฉีกซองแล้วสูบ! ก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติต่างๆได้ทันที
แต่ถ้าน้องๆคนไหนที่กำลังมองหาทางเลือกที่สุดกว่าสำหรับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า พี่ขอแนะนำ Relx  พอตไฟฟ้าแบบเปลี่ยนหัวที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่น และยังสามารถปรับระดับไฟได้ตามความต้องการของเราอีกด้วย ทำให้คุณจะได้เปิดประสบการณ์การสูบที่ฟิน อย่างน่าเหลือเชื่อ

 

ทำไมต้องซื้อ บุหรี่ไฟฟ้า กับ Dotpod

หากคุณกำลังมองหา ตัวช่วยสำหรับการเลิกบุหรี่ หรือ ฟิลลิ่งในการสูบที่แปลกใหม่ ขอแนะนำ Pod System บุหรี่ไฟฟ้า ที่สามารถพกพาได้สะดวก ด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัด แถมยังมีให้คุณเลือกใช้งานถึง 2 รูปแบบ คือ “แบบใช้แล้วทิ้ง”  KS quik 2000 กับ “แบบเปลี่ยนหัวสูบ” Relx , INFY , Marbo , Vmc Seoul Nic 3% ตอบโจทย์สำหรับมือใหม่และสายชิว ด้วยระบบการทำงานแบบ Close System ทำให้คุณมั่นใจในความปลอดภัย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดลองสูบ!

 

สอบถามข้อมูลการใช้งานเบื้องต้นเกี่ยวกับ เครื่องพอตรุ่นต่างๆ น้ำยา บุหรี่ไฟฟ้า , หัวสูบPod เพิ่มเติมได้ที่

LINE Official Account : @Dotpod


ติดต่อและสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม.

Website : https://nexpod.ch/

ห้ามพลาด! สิทธิพิเศษสำหรับคุณ

Dotpod จัดโปรโมชั่น รับส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้า สำหรับคุณโดยเฉพาะ

โปรโมชั่นนี้จะหมดอายุในอีก..

00 Hours
15 Minutes
00 Seconds

ซื้อสินค้าทันที!
LINE LOGO SVG ติดต่อสอบถามผ่านไลน์